ยินดีต้อนรับครับ

ยินดีต้อนรับครับ

ทักทาย

ผมลองจัดระเบียบบล็อกใหม่ดูนะ ครับ

โดยแบ่ง Group Blog ออกตามประเภทของหนังและนิยายนะครับ
เพราะคิดว่าหลายคนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบ ดูหนังทุกประเภท

เช่น บางคนชอบดูหนัง Romantic แต่ไม่ชอบดูหนังสยองขวัญเลย เพราะไม่ชอบ น่ากลัว

บางคนก็ชอบดูหนัง สยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ หนังชีวิตน่าเบื่อมาก ไม่ชอบดู

ผมเลยแบ่ง หมวดหมู่เป็นประเภทของหนัง (แต่ตอนนี้แต่ละหมวดยังน้อยอยู่) เผื่อว่าใครผ่านเข้ามาในบล็อกแล้วอยากจะอ่านรีวิวเก่า ๆ จะได้เลือกได้ตามประเภทของหนังตามที่ชอบได้

ที่แบ่งตั้งแต่ตอนนี้ แม้หนังที่เขียนยังไม่เยอะ เพราะคิดว่าต่อไปเกิดเยอะมาแบ่งที่หลังจะยิ่งเสียเวลาน่ะครับ

บางเรื่องก็แบ่งยากเหมือนกัน มันคาบเกี่ยวกัน แต่ผมจะพยายามยึดอารมณ์ของหนังเป็นหลักน่ะครับ

อ้อ แล้วก็ในบล็อกผมตั้งใจจะขึ้นคำเตือนในทุกบล็อกว่าตรงไหนคุยแบบไม่สปอยล์ ตรงไหนคุยแบบสปอยล์ เวลาใครมาอ่านจะได้อ่านแบบสบายใจได้ไม่ต้องกลัวถูกสปอยล์นะครับ

ถ้าใครแวะมาแล้วไม่รู้จะคอมเมนต์ อะไร ก็ฝากข้อความทิ้งไว้ที่ Shout Box ด้านข้างได้นะครับ


ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ ผมก็จะแวะเวียนไปหาท่านด้วยเช่นกัน ตามโอกาสและเวลา

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ในวันที่ "การไฟฟ้าไม่มานะเธอ" เหตุการณ์ After shock หลังกีฬาสี

หายไปสัปดาห์กว่า บล็อกไม่มีความเคลื่อนไหว เพราะเจอสถานการณ์ After Shock หลังกีฬาสีเสร็จสิ้น

ส่งผลให้เกิดหนังชีวิตเรื่องใหม่ "การไฟฟ้าไม่มานะเธอ"

เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ขอให้เป็นแค่หนึ่ง ครั้งในชีวิตก็พอแล้ว...อย่ามีอีกเลย

พอดีบ้านผมอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงการชุมนุม เลยได้รับผลกระทบบ้าง แม้จะัไม่มากเท่าพี่น้องชาวบ่อนไก่

แต่จากการที่หลังบ้านหันหลังให้การไฟฟ้าคลองเตย ทำให้รู้สึกว่าเหตุการณ์มันไม่ได้อยู่ห่างตัวเองเลย

วันที่เกิดเหตุจลาจล ที่ทำงานผมอยู่แถวเย็นอากาศ ก็เรียกว่าใกล้เคียงกับสถานที่ที่เกิดความวุ่นวายอย่างบ่อนไก่พอสมควร เพราะอีกนิดเดียวก็จะทะลุซอยงามดูพลีอยู่แล้ว วันนั้นพี่ที่บริษัทมาบอกว่า การไฟฟ้าถูกเผา ผมต้องโทรเช็คกับเพื่อนที่บ้านหลายคนให้แน่ใจว่าสถา่นการณ์เป็นยังไง

ปรากฏว่าตึกการไฟฟ้าข้างบ้านตรงริมถนน ถูกเผา ไฟกำลังไหม้อยู่


เหลือแต่ซาก ไหม้ทั้งคืนถึงเช้า


ซึ่งเพื่อนผู้หญิงที่อยู่แถวบ้านใกล้เรือนเคียงก็แบบ ไม่ไหวแล้ว ต้องปีนข้ามกำแพงหลบออกไปทางด้านหลัง ทางพระราม 3 บางคนก็กลับบ้านตจว.หรือไปนอนบ้านเพื่อน บางคนก็ไปไหนก่อนก็ได้ กลัวไม่ปลอดภัย

ผมเดินกลับบ้านมาถึงราว 5 โมงเย็นได้มาเห็นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน จอดมอเตอร์ไซค์อยู่หน้า ธ.กสิกรไทยคลองเตย แล้วลงมารุมทุบตู้เอทีเอ็มราว 7-8 คน ทีเหลือก็จอดรถดู บางคนก็เข้าไปในธนาคาร ดูวุ่นวาย แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม

เห็นว่ามีคนเข้าไปถ่ายรูปก่อนหน้านั้น แล้วโดนไล่กระทืบมา...แล้วใครจะกล้า

ตอนแรกมีคนตั้งท่าจะเผา แต่มีคนนึงไปขอร้องว่า่อย่าทำเลย
บ้านชาวบ้านจะลำบากด้วย เลยได้รับความเมตตา โดนทุบอย่างเดียว



คืนนั้นต้องตัดสินใจว่าจะนอนค้างที่บ้านหรือไปหาที่นอนเอาดาบหน้าดี เพราะไฟฟ้าก็ดับ ดีที่น้ำประปายังไหลอยู่ สุดท้ายเพื่อนผู้ชายอีก 5-6 คนตกลงว่าจะนอนเฝ้าบ้านกัน ส่วนผม เพื่อความชัวร์เก็บเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคลงกระเป๋าไว้ก่อน เผื่อฉุกเฉินจะได้หนีทัน

เพื่อนคนอื่น ๆ ก็เตรียมพร้อม คอมพิวเตอร์ กีตาร์ ของส่วนตัว เสื้อผ้า ขนมากองชั้นล่างรอขน

อันนี้ตอนที่ผมเห็นยังมีกระถางต้นไม้คาอยู่ข้างใน


คืนนั้น รู้สึกคนอื่น ๆ จะไม่มีใครนอนกัน เอาเสื่้อมาปูหน้าบ้าน จุดยากันยุง จุดเทียน นอนเฝ้าซอย และยังมีคนในซอยจำนวนหนึ่งแวะเวียนมาคุยกัน เขาก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ทั้งร้อนตัว ร้อนใจ เลยเหมือนกับช่วยเ้ฝ้าซอยกัน

ได้เห็นน้ำใจจากคนในซอย เจ๊ตู่เจ้าของร้านอาหารหน้าปากซอยอุตส่าห์ทำกับข้าวเลี้ยง บ้านตรงข้ามก็เอาข้าว กับข้าว น้ำ เทียนไข ไฟแช็กมาให้ กลัวว่าพวกผมจะไม่มีอะไรกินกัน เพราะตอนนั้นจะไปหาอะไรกินกันก็ไม่ได้แล้ว เหมือนอยู่ในแดนมิคสัญญี

นี่คือน้ำใจครับ แม้ในความมืดมิด ก็ยังมีแสงสว่างอยู่บ้าง

ส่วนผมตัดสินใจนอนดีกว่า เพราะต้องไปทำงานพรุ่งนี้เช้า บริษัทไม่ประกาศให้หยุด

แต่นอนก็แทบไม่หลับทั้งคืน นอนในห้องก็ร้อน พลิกไปพลิกมา ออกมานอนข้างนอก ยุงก็กัด

ราวตีสองได้ยินเสียงโวกเวกโวยวาย วิ่งลงมาดู อ้าวหายไปไหนกันหมด ซักพัก เพื่อนผู้ชายกับคนแถวบ้านเดินกลับมากัน 8-9 คน บอกว่ามีคนตะโกนว่า "นครหลวงไฟไหม้" เลยวิ่งไปจะไปช่วยดับไฟ นึกว่าธ.นครหลวงไทยตรงคลองเตย ที่ไหนได้ คนตะโกนเป็นลุงแก่ ๆ แกหมายถึง การไฟฟ้านครหลวงไฟไหม้

โธ่ ลุง มันไหม้ตั้งแต่บ่ายสามแล้ว เพิ่งรู้สึกตัวเหรอ

แม้ไม่ถูกเผา แต่ก็โดนทุบเช่นกัน


คงเพราะมันประทุและไฟโหมขึ้นมาอีก คืนนั้นไฟไหม้ทั้งคืน ไม่มีใครกล้ามาดับ ภายหลังถามคนที่การไฟฟ้า เขาบอกมีคนเข้ามาเผา ออกมาห้าม โดนชักปืนขู่ว่า "อย่ามาเสือก" เป็นใครก็ต้องถอย ไม่คุ้มกับชีวิต

สุดท้ายคืนนั้นก็ผ่านไปได้ ได้ยินเสียงแตกพล้งเพล้งทั้งคืน

เช้ามาผมก็ไม่ได้ไปทำงานจนได้ โทรไปลา เจ้านายก็เข้าใจและไม่นับเป็นวันลา

ตอนบ่าย ๆ ออกมาตรวจดูสถานการณ์หลังจากเริ่มสงบ เวทีผู้ชุมนุมตรงสามแยกคลองเตยก็ไม่มีแล้ว

โดยสรุป ตู้เอทีเอ็มเกือบทุกตู้ถูกทุบ บางตู้ก็ถูกกระชากหลุดออกมาทั้งยวง บางตู้มีก้อนหินก้อนเบ้อเริ่มเข้าไปยัดอยู่ข้างไหน อะไรที่เป็นกระจกแถวนั้นถูกทุบแตกเกือบหมด เซเว่นไม่ต้องพูดถึงพังเกลี้ยง ของหายหมด

อันนี้ตู้หน้าการไฟฟ้า ก้อนหินคาอยู่ข้างใน

ผลกระทบจาก After Shock

คือ เน็ตใช้ไม่ได้ราว 4-5 วัน ไม่มีเซเว่นให้ซื้อของ สนามแบดและบาสปิด ไม่มีให้เล่น สวนลุม ไม่รู้จะได้ไปวิ่งเมื่อไหร่ ร้านเช่าการ์ตูนเจ้าประจำที่บ่อนไก่เป็นไงบ้าง

ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดในสยามเมืองยิ้ม หวังว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายและดีขึ้นตามลำดับ อย่างผมไม่เจอกับตัวเต็ม ๆ แต่หลายคนอาจโดนเต็มที่ ธุรกิจเสียหาย ขาดทุน ถึงขั้นเจ๊งก็มีหลายราย

เห็นเซเว่น ผมก็คิดว่าถ้าเขาไม่มีประกัน ก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะครับ บางคนอาจคิดว่าเซเว่นเป็นของ CP นั่นเป็นแค่แบรนด์และ contract แต่เจ้าของร้านก็คือคนทั่ว ๆ ไป ที่ไปซื้อแฟรนไชส์มา โดนไปขนาดนี้ เขาเสียหายเป็นล้าน ๆ บาท ทุกวันนี้ผมเห็นตรงสาขาฝั่งตรงข้ามพระหฤทัยยังไม่ขยับซ่อมแซมเลย แต่ธนาคารยังดีหน่อย เพราะเป็นบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ยังมีทุนหมุนเวียน และเงินในเอทีเอ็มส่วนใหญ่พังได้แต่เอาไปไม่ได้ เพราะเซฟแน่นหนา

เซเว่นนี้ดีหน่อยที่ปิดปรับปรุงก่อนหน้านั้นไม่นาน ของเลยไม่หาย แต่กระจกโดนทุบพังหมด


แต่ชีวิตก็ต้องก้าวหน้าต่อไป เชื่อว่าคนดีในสังคมยังมีอีกมากมาย ดูภาพได้จากกระทู้แนะนำของเฉลิมไทย

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9287047/A9287047.html

หวังว่าคนไทยจะรักกันมาก ๆ นะครับ เราจะได้กอดคอฝ่าวิกฤตกันได้

ส่วนเราชาว Blogger ก็กลับมาอัพบล็อกกันต่อไป

แม้จะผ่านประสบการณ์ที่ "การไฟฟ้าไม่มานะเธอ" แต่ของพังแล้วก็ซ่อมได้ แต่จิตใจคนเราถ้าปล่อยให้พัง จะซ่อมก็ยาก จะเยียวยาก็ยาวนาน อยากให้คนไทยรักษาใจให้ดีเสมอ อย่าให้จิตใจของเราขุ่นมัวจากเรื่องต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบนะครับ

แล้วเราจะมีความสุข และไม่ทำให้ผู้อื่นทุกข์ใจด้วย

บทความนี้ขอละเว้นการพูดถึงประเด็นทางการเมือง ขอเีพียงแค่แชร์ประสบการณ์ชีวิตเท่านั้น

* รูปถ่ายประกอบ ไม่ใช่ฝีมือผม มาจากกล้้องเพื่อนครับ *


สถานีรถไฟฟ้าคลองเตย

1 ความคิดเห็น:

  1. เห็นแล้วอยากร้องไห้... แม้จะเตรียมใจว่ามันจะเกิดแล้วนะ เศร้าจริง

    ตอบลบ