ยินดีต้อนรับครับ

ยินดีต้อนรับครับ

ทักทาย

ผมลองจัดระเบียบบล็อกใหม่ดูนะ ครับ

โดยแบ่ง Group Blog ออกตามประเภทของหนังและนิยายนะครับ
เพราะคิดว่าหลายคนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบ ดูหนังทุกประเภท

เช่น บางคนชอบดูหนัง Romantic แต่ไม่ชอบดูหนังสยองขวัญเลย เพราะไม่ชอบ น่ากลัว

บางคนก็ชอบดูหนัง สยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ หนังชีวิตน่าเบื่อมาก ไม่ชอบดู

ผมเลยแบ่ง หมวดหมู่เป็นประเภทของหนัง (แต่ตอนนี้แต่ละหมวดยังน้อยอยู่) เผื่อว่าใครผ่านเข้ามาในบล็อกแล้วอยากจะอ่านรีวิวเก่า ๆ จะได้เลือกได้ตามประเภทของหนังตามที่ชอบได้

ที่แบ่งตั้งแต่ตอนนี้ แม้หนังที่เขียนยังไม่เยอะ เพราะคิดว่าต่อไปเกิดเยอะมาแบ่งที่หลังจะยิ่งเสียเวลาน่ะครับ

บางเรื่องก็แบ่งยากเหมือนกัน มันคาบเกี่ยวกัน แต่ผมจะพยายามยึดอารมณ์ของหนังเป็นหลักน่ะครับ

อ้อ แล้วก็ในบล็อกผมตั้งใจจะขึ้นคำเตือนในทุกบล็อกว่าตรงไหนคุยแบบไม่สปอยล์ ตรงไหนคุยแบบสปอยล์ เวลาใครมาอ่านจะได้อ่านแบบสบายใจได้ไม่ต้องกลัวถูกสปอยล์นะครับ

ถ้าใครแวะมาแล้วไม่รู้จะคอมเมนต์ อะไร ก็ฝากข้อความทิ้งไว้ที่ Shout Box ด้านข้างได้นะครับ


ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ ผมก็จะแวะเวียนไปหาท่านด้วยเช่นกัน ตามโอกาสและเวลา

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

รูมเมต ปริศนาเพื่อนร่วมห้อง : นิยายแนว Psycho Thiller ชั้นดีเต็มรูปแบบ

รีวิวไม่สปอยล์แต่อย่างใด


รูมเมต ปริศนาเพื่อนร่วมห้อง
เป็นผลงานคุณภาพจากฝีมือของผู้เขียน อิมะมุระ อายะ และแปลโดยคุณหนึ่งฤทัย ปราดเปรียว

เป็นงานเขียนที่ผู้อ่านที่ชื่นชอบเรื่องราวลึกลับ ตื่นเต้น ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ระทึกขวัญและหักมุม จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอนเมื่อได้อ่านจบ

หนังสือเล่าเรื่องราวโดยเปิดฉากด้วยคดีสังหารโหดชาวต่างชาติ แล้วตามมาด้วยเล่าเรื่องของฮารุมิ ฮากิโอะ เด็กสาวที่มาเรียนต่อโตเกียว แล้วบังเอิญต้องมาแชร์อพาร์ทเมนต์ร่วมกับ นิชิมุระ เรโกะ แต่แล้ววันหนึ่ง เรโกะกลับหายตัวไปจากห้อง โดยค้างค่าเช่าห้องไว้ หนำซ้ำก่อนหนัาที่จะหายตัวไป เธอก็เริ่มทำตัวแปลก ๆ นิสัยที่เคยเป็นเมื่อแรกที่รู้จักกับฮารุมิก็เปลี่ยนไปเหมือนคนละคน

ฮารุมิจำเป็นต้องออกตามหาตัวเรโกะ โดยที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจอและเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวประหลาดสุดจะคาดเดาได้

ผมขอเกริ่นเรื่องย่อ ๆ ไว้แค่นี้แล้วกัน เพื่อผู้อ่านบางท่านที่ยังไม่ได้อ่าน จะได้อรรถรสเต็มที่เมื่อลงมืออ่าน

แต่ถ้าใครบังเอิญได้อ่านเรื่องย่อบนปกหลังไปแล้ว ก็อ่านจะถูกสปอยล์เนื้อหาบางประเด็นไปแล้ว

จริงอยู่ที่เรื่องย่อที่บอกไว้หลังเล่มนั้นไม่ได้เฉลยเนื้อหาที่สำคัญ และยังมีเนื้อหาอื่น ๆ ที่เฉลยในเรื่องให้อ่านอีกเยอะ

แต่ถ้าอยากให้คุ้มค่าจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งอ่านปกหลังแล้วกัน อันนี้แล้วแต่จะสะดวกนะครับ ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด (เพราะผมก็อ่านก่อนเหมือนกัน แต่ก็สนุกกับเรื่องได้ ไม่มีปัญหา)

สิ่งที่เป็นจุดเ้ด่นของงานเขียนเล่มนี้คือ การแทรกวิธีการดำเนินเรื่องที่แปลกใหม่เข้ามา ในเรื่องแต่ละบทจะมีการเล่าเรื่องที่เรียกว่า "โมโนล็อก" อยู่ก่อนหน้าทุกครั้ง เป็นการเล่าเรื่องสั้น ๆ แต่เป็นประเด็นสำคัญของเนื้อหาแต่ละช่วง โดยเล่าผ่านมุมมองของฆาตกร (ใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง)

ซึ่งทำให้เรื่องราวของหนังสือน่าสนใจ และทวีความตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้อ่านส่วนคั่นนี้

ผู้เขียนเลือกแนวเรื่องที่จะเขียนขึ้นมาชัดเจน หาข้อมูลในประเด็นที่จะนำมาเล่น และนำประเด็นนั้นมาต่อยอด แตกตัว แล้วจับมาเล่นอย่างเต็มที่ ด้วยความสนุกสนาน และมั่นใจในเรื่องราวของตัวเองสุด ๆ

เนื้อหาของเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว มีสองอย่างที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทางของเรื่องราวนี้ คือ "ปริศนา" และ "ไขปริศนา"

ดังนั้นผู้อ่านที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องแนวนี้ ไม่ต้องเสียเวลาอดทนรออ่านจนจบเพื่อจะได้ลิ้มรสชาติการไขปริศนาในตอนท้ายเหมือนกับนิยายหลาย ๆ เรื่อง

แต่ตลอดเวลาที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้นั้น เราจะได้รับอาหารมื้อเล็ก ๆ เพื่อประทังความหิวกระหายใคร่รู้เรื่องราวในตอนจบอย่างเต็มที่

ผู้เขียนได้สร้างเบาะแสทิ้งไว้เยอะัแยะมากมาย และก็สะสางในเวลาไม่นานนัก หลายครั้งก็ล่อเราให้หลงด้วยเบาะแสต่าง ๆ แล้วหักหลังเราว่า "มันไม่ใช่"

สุภาษิตประโยคหนึ่งบอกไว้ว่า "ซ่อนใบไม้ให้ซ่อนในป่า"

ผมคิดว่าเหมาะแก่การอธิบายหนังสือเล่มนี้ได้ใกล้เคียง

แต่ด้วยความที่เนื้อหาในหนังสือนั้นเดินหน้าไปค่อนข้างรวดเร็ว ทำให้อาจดูมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างทีตัวละครในเรื่องนั้น สามารถไขปริศนาหลายอย่างด้วยข้อสันนิษฐานของตัวเอง หรือผู้ร่วมงาน จนกลายเป็นข้อสรุปที่ปราศจากหลักฐาน และเรื่องราวต่อจากนั้นก็เหมือนกับยอมจำนนข้อสันนิษฐานของตัวละคร โดยการโยงใยให้เนื้อหาความจริงสอดรับกับข้อสันนิษฐานนั้นอย่างง่าย ๆ

แต่ผู้อ่านก็พร้อมจะมองข้ามข้อด้อยนี้ได้ไม่ยาก ด้วยมีเรื่องราวอื่นให้สนใจอย่างต่อเนื่อง

รูมเมต ปริศนาเพื่อนร่วมห้อง จึงเป็นนิยายแนวสืบสวนที่เล่นกับประเด็นอย่างเต็มที่ และตอบสนองความพึงพอใจของนักอ่านที่ชอบเรื่องราวแนวนี้อย่างเต็มตัว

ไม่ต้องมาดราม่าให้เสียเวลา เลือกแนวแล้วใส่เต็มที่

ผมให้คะแนนเรื่องนี้ในฐานะผลงานที่ขายตัวเองชัดเจน ไม่เสียเวลากับประเด็นอื่น ๆ ให้มากความ 9/10 ครับ

ขอสรุปเนื้อเรื่องทั้งหมดนะครับ เผื่อใครอ่านแล้วยังงง ๆ

แน่นอนจากตรงนี้สปอยล์ทั้งเรื่อง ใครยังไม่ได้อ่านผ่านไปก่อนเลยครับ




อาโอยางิ อาซามิ เป็นคนที่ป่วยเป็นโรค DID หรือโรคจิตเภท คือมีหลายบุคลิกในตัวคนเดียว ซึ่งโรคนี้มักเกิดจากการที่คนนั้นต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจของ ตัวเองอย่างรุนแรงบางอย่าง จนทำให้ภายในตัวเองมีการแบ่งภาคบุคลิกตัวเองขึ้นมา

โดยคนที่เป็นแบบนี้มีหลายแบบ เช่น
1) แบบที่บุคลิกทุกบุคลิกจะติดต่อสื่อสารกัน บุคลิกหลักหรือคือตัวตนจริง ๆ แต่ดั้งเดิมจะทราบว่าตัวเองมีหลายบุคลิกและมีการติดต่อพูดคุยกันได้ภายในจิต ใจของตัวเอง
2) แบบที่บุคลิกหลักไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนหลายบุคลิก เวลาที่บุคลิกภายในของตัวเองแสดงตนออกมา บุคลิกหลักจะจำอะไรไม่ได้

ซึ่งในแบบที่สองนี้บางทีบุคลิกอื่นในตัว ก็อาจจะรู้จักติดต่อสื่อสารกันได้ หรืออาจจะไม่รู้จักกันก็ได้

และในบรรดาบุคลิกทั้งหมดนี้ ไม่จำเป็นที่บุคลิกหลักจะเป็นผู้มีอำนาจทั้งหมดเสมอไป อาจมีบางบุคลิกที่แข็งแกร่งกว่าก็ได้

อาซามิเป็นแบบที่ 2 นี่เอง โดยเรื่องราวชีวิตของอาซามิ เริ่มจาก ตอนสมัยเป็นเด็กนั้นอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่อเมริกา ข้างบ้านมีเพื่อนบ้านเป็นเด็กมหาวิทยาลัยชื่อบ็อบ

อาซามิซึ่งตอนนั้นอายุ 6 ขวบถูกบ็อบข่มขืน นั่นอาจเป็นสาเหตุให้อาซามิกลายเป็นคนหลายบุคลิก คือ มีบุคลิกชื่อ แมรี่ ที่เป็นผู้หญิงแกร่ง เข้ากับสังคมได้ดี ซึ่งชื่อนี้มาจากตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ของเธอ และบุคลิกแซมมี่ เป็นเด็กอายุ 6 ขวบและหยุดการเจริญเติบโตอยู่แค่นั้น ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่ใช้ตอนอยู่อเมริกา

บุคลิกแซมมี่จะพูดได้แต่ภาษาอังกฤษและเป็นเด็ก หลายครั้งที่บุคลิกนี้ปรากฏตัวก็จะร้องไห้ตัวสั่นเหมือนเด็กและพูดแต่ภาษา อังกฤษ

บุคลิกแมรี่พูดได้ทั้งญี่ปุ่นและอังกฤษเพราะเติบโตมาพร้อม ๆ กับอาซามิ และมีจิตใจแข็งแกร่ง

ต่อมาอาซามิมาอยู่ญี่ปุ่นมาอาศัยญี่ปุ่น ช่วงแรก ๆ พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ทำให้ถูกเพื่อนล้อ เป็นปมด้อยเป็นเหตุให้เกิดบุคลิกที่ชื่อ ยูคิ ขึ้นมา ซึ่งเป็นบุคลิกที่เอามาจากชื่อตุ๊กตาญี่ปุ่นของเธอ

ต่อมาอาซามิซึ่งอาจอยู่ในสภาพของยูคิ ตกหลุมฮิราดะ โยจิ และหนีไปแต่งงานด้วย แต่อยู่ด้วยไม่ถึง 2 ปี โยจิก็ออกลาย อาซามิ (หรือยูคิ) ก็เลยกลับมาบ้านแล้วมาได้แต่งกับ นิชิมุระ ซาดะอิจิ ชีวิตมีความสุขดีจนมีลูกสาวด้วยกัน ชื่อ นิชิมุระ เรโกะ

แต่ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากมีลูก บุคลิกแมรี่ปรากฏตัวกลับขึ้นมา ทำให้ตัวอาซามิ (ในสายตาคนอื่น แต่ตอนนั้นคือ แมรี่) ไม่สนใจเลี้ยงดูเอาใจใส่ลูก เอาแต่ออกเที่ยว เพราะตอนนั้นแมรี่สวมบทบาทอยู่ ซึ่งแมรี่ไม่รู้สึกว่า เรโกะคือลูกของตัวเอง จนสุดท้ายชีวิตแต่งงานจึงต้องจบด้วยการหย่า

หลังจากนั้นอาซามิก็เข้ามาทำงานในเมือง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือบางครั้งระหว่างที่ทำงานอยู่ บุคลิกอื่น ๆ ปรากฏตัวออกมา ทำให้จำสิ่งที่ทำไม่ได้ ลืมโน่น ลืมนี่ บางอย่างเคยทำได้ก็ทำไม่ได้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้อาซามิต้องเปลี่ยนงานบ่อย ๆ จนสุดท้ายจึงทำงานไม่ได้ แมรี่จึงออกมาทำงานกลางคืนแทน

การทำงานกลางคืน ทำให้เกิดบุคลิกอีกหนึ่งคนขึ้นมาคือ คาโอริ ระหว่างที่แมรี่ทำงานกลางคืนและบางครั้งต้องนอนกลับแขกน่ารังเกียจ แมรี่จะใช้ให้คาโอริทำแทน แต่ถ้าเป็นคนที่เธอชอบพึงพอใจ เธอก็จะเป็นแมรี่

ช่วงนั้นแมรี่ปกครองบุคลิกทั้งหมดและอยู่ด้วยกัน โดยเรียกรวมกันว่ารูมเมต มีแมรี่ แซมมี่ ยูคิ คาโอริ และอาซามิ

ต่อมาภายหลังแมรี่ไปเจอกับมัตสึชิตะ ทาคาฮิโระ โดยบังเอิญ ซึ่งตอนนั้นบุคลิกยูคิที่หลับไหลมาระยะหนึ่งได้ออกมาสวมบทบาทอยู่ ยูคิซึ่งเป็นคนอ่อนไหว แม่บ้านแม่เรือน ว่าง่าย จึงตกหลุมรักมัตสึชิตะอย่างง่าย ๆ

และในช่วงระยะเวลาเดียวกันนั้น อาซามิ ได้เจอกับลูกสาวของตัวเองที่โตเกียว โดยเธอแวะมาปรึกษาเรื่องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทำให้เธอเกิดบุคลิกใหม่เลียนแบบลูกสาวของตัวเอง คือ นิชิมุระ เรโกะ และมาบังเอิญเจอกับฮารุมิ ฮากิโอะ โดยบังเอิญ จึงขอแบ่งห้องเช่าเป็นรูมเมตกัน

แต่ภายหลังบุคลิกเรโกะพบว่าตัวเองไม่ใช่นักศึกษาที่แท้จริง จึงเกิดความสับสนและหายตัวไป แมรี่จึงกลับมาแทน ระหว่างนั้นแมรี่ได้พบความจริงว่า ฮารุมิก็เป็นคนแบบเดียวกับเขา

คือ ฮารุมิ มีอีกบุคลิกหนึ่งอยู่ในตัว คือบุคลิกของพี่ชาย ที่ชื่อเคนสึเกะ บุคลิกนี้เกิดจากการที่ฮารุมิเทิดทูนพี่ชายของตัวเอง เพราะเคนสึเกะคอยเลี้ยงดูและดูแลน้องมาตั้งแต่เล็ก ๆ แต่ตัวเองกลับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่ชายประสบอุบัติเหตุตาย ทำให้เธอโทษตัวเอง และเธอยังถูกแม่ตัวเองว่าว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ชายตายด้วย

ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอมีบุคลิกเคนสึเกะโดยไม่รู้ตัว โดยเคนสึเกะจะออกมาปกป้องฮารุมิเวลาเจอเรื่องร้าย ๆ

พอเคนสึเกะในตัวฮารุมิ เจอแมรี่จึงตกหลุมรักแมรี่ เพราะเธอเป็นพวกแบบเดียวกับเขา ต่อมาแมรี่เจอกับโรเบิร์ต ปาร์กเกอร์ ซึ่งก็คือบ็อบที่ข่มขืนอาซามิตอนเด็ก ๆ และฆ่าพ่อแม่ของเธอปิดปากโดยบังเอิญ เพราะบ็อบมาเป็นแขกของเธอและติดใจเธอ แมรี่เลยวางแผนฆ่าบ็อบโดยให้เคนสึเกะทำให้

เคนสึเกะในร่างฮารุมิก็ฆ่าบ็อบให้ แต่พอแมรี่บอกว่าเสร็จงานแล้วจะทิ้งเคนสึเกะ เขาจึงโมโห และไม่ยอม แต่แมรี่บอกว่าถ้าเคนสึเกะไม่ยอมจะเอาเทปที่อัดการสนทนา ตอนที่เคนสึเกะบอกจะไปฆ่าบ็อบให้ ให้ฮารุมิฟัง ซึ่งเคนสึเกะไม่ยอม เพราะเขารักน้องสาวมาก

เคนสึเกะในร่างฮารุมิ จึงฆ่าแมรี่ตายแต่กลับหาเทปไม่เจอ เพราะแมรี่ฝากเทปไว้กับเพื่อนชื่อฮิซาโกะ ตอนที่ฆ่าแมรี่ มีเสียงบางเสียงในหัวสมองบอกให้ทำ ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคือเสียงอะไร ต่อมาฮิซาโกะมอบเทปให้ทาเคฮาระ เอจิ นักข่าวอิสระ หลานฝั่งแม่ของเคนสึเกะ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของฮารุมิ (เคนสึเกะอีกคนหนึ่ง ซึ่งฮารุมิแอบชอบ)

แต่บุคลิกเคนสึเกะในตัวฮารุมิรู้ความจริง (เพราะสามารถรับรู้เรื่องราวได้แม้ตอนที่เป็นฮารุมิ แต่ฮารุมิไม่รู้เรื่องของเคนสึเกะ) จึงฆ่าทาเคฮาระตายเพื่อชิงเทป แต่ก็ไม่เจอ (ตอนที่ฆ่านี้ ก็มีเสียงในหัวสมองบอกว่าอย่าทำ) เพราะทาเคฮาระซ่อนไว้ และได้ส่งอีเมล์ล่วงหน้าบอกที่ซ่อนไว้กับเคนสึเกะ (รุ่นพี่ของฮารุมิ)

เคนสึเกะฟังเทปนั่นแล้วพบความจริงว่าในตัวของฮารุมิมีอีกบุคลิกหนึ่งคือพี่ ชายของเธอ เขาเลยจะแก้ไข โดยการหลอกพาฮารุมิไปต่างจังหวัดโดยบอกว่าจะไปเอาเทป ซึ่งเขาคิดว่าเมื่อถึงเวลาจวนตัว เคนสึเกะต้องปรากฏตัวออกมาป้องกันไม่ให้ฮารุมิฟังแน่ ๆ

แล้วก็เป็นจริง เคนสึเกะ (บุคลิกพี่ชาย) ปรากฏตัวมาคุยกับเคนสึเกะ (พระเอก) สุดท้ายพระเอกก็กล่อมให้เคนสึเกะในตัวฮารุมิยอมหลับลึกและจากไป เหมือนฆ่าตัวตาย และจะไม่โผล่ออกมาอีก แลกกับการที่พระเอกจะไม่นำเทปนี้ไปให้ตำรวจ

แต่ตอนจบมีหักมุม คือในตัวฮารุมิได้เกิดบุคลิกเคนสึเกะขึ้นมาอีกหนึ่งบุคลิกคือ เลียนแบบมาจากเคนสึเกะซึ่งเป็นพระเอก โดยตอนแรกทั้งฮารุมิ และบุคลิกเคนสึเกะ (พี่ชาย) ก็ไม่รู้มาก่อน แต่ตอนที่จะฆ่าแมรี่นั้น บุคลิกเคนสึเกะ (พระเอก) ก็เชียร์ให้ทำ พอตอนที่จะฆ่าทาเคฮาระ บอกว่าอย่าทำ นั่นเพราะทาเคฮาระเป็นญาติกับพระเอกนั่นเอง

บุคลิกใหม่นี้มีกำลังขึ้นมากหลังจากที่บุคลิกเคนสึเกะ (พี่ชาย) จากไป โดยเขาวางแผนว่าจะทำความรู้จักกับฮารุมิ เพราะเขามองว่าข้อผิดพลาดที่คนก่อนทำไว้คือไม่ยอมสื่อสาร แต่เขาจะค่อยสื่อสารและทำให้ฮารุมิยอมรับเขา แล้วหลังจากนั้นก็จะกำจัดเคนสึเกะ (พระเอกที่เป็นตัวตนจริง ๆ) ทิ้ง เพราะเขาบอกว่า บนโลกใบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเคนสึเกะถึงสองคนหรอก

กว่าจะสรุปเรื่องราวได้หมด เหนื่อยเหมือนกัน ถือว่าผู้เขียนวางโครงเรื่องมาเป็นอย่างดีจริง ๆ

1 ความคิดเห็น:

  1. โครงเรื่องคล้ายๆ Identity (มีทั้งภาพยนตร์และหนังสือ..แต่ไม่เคยดูภาพยนตร์ ฮา~)

    แต่ในเรื่องเป็นเหตการณ์ที่5คนอยู่ด้วยกัน แล้วค่อยๆตายทีละคน
    จนเกิดความสงสัยว่าใครกันแน่เป็นฆาตรกร...

    ตอนสุดทายถึงเฉลยความจริงว่า ..(ตามนั้น 55555+)


    ปล.เรื่องแนวนี้อ่านได้ครั้งเดียวเพราะรู้แกวหมดแล้ว T^T

    ตอบลบ