ยินดีต้อนรับครับ

ยินดีต้อนรับครับ

ทักทาย

ผมลองจัดระเบียบบล็อกใหม่ดูนะ ครับ

โดยแบ่ง Group Blog ออกตามประเภทของหนังและนิยายนะครับ
เพราะคิดว่าหลายคนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบ ดูหนังทุกประเภท

เช่น บางคนชอบดูหนัง Romantic แต่ไม่ชอบดูหนังสยองขวัญเลย เพราะไม่ชอบ น่ากลัว

บางคนก็ชอบดูหนัง สยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ หนังชีวิตน่าเบื่อมาก ไม่ชอบดู

ผมเลยแบ่ง หมวดหมู่เป็นประเภทของหนัง (แต่ตอนนี้แต่ละหมวดยังน้อยอยู่) เผื่อว่าใครผ่านเข้ามาในบล็อกแล้วอยากจะอ่านรีวิวเก่า ๆ จะได้เลือกได้ตามประเภทของหนังตามที่ชอบได้

ที่แบ่งตั้งแต่ตอนนี้ แม้หนังที่เขียนยังไม่เยอะ เพราะคิดว่าต่อไปเกิดเยอะมาแบ่งที่หลังจะยิ่งเสียเวลาน่ะครับ

บางเรื่องก็แบ่งยากเหมือนกัน มันคาบเกี่ยวกัน แต่ผมจะพยายามยึดอารมณ์ของหนังเป็นหลักน่ะครับ

อ้อ แล้วก็ในบล็อกผมตั้งใจจะขึ้นคำเตือนในทุกบล็อกว่าตรงไหนคุยแบบไม่สปอยล์ ตรงไหนคุยแบบสปอยล์ เวลาใครมาอ่านจะได้อ่านแบบสบายใจได้ไม่ต้องกลัวถูกสปอยล์นะครับ

ถ้าใครแวะมาแล้วไม่รู้จะคอมเมนต์ อะไร ก็ฝากข้อความทิ้งไว้ที่ Shout Box ด้านข้างได้นะครับ


ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ ผมก็จะแวะเวียนไปหาท่านด้วยเช่นกัน ตามโอกาสและเวลา

วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553

รัก ลวง ตาย : โศกนาฏกรรมแห่งความรัก

บทความนี้อาจมีเนื้อหาที่สปอยล์บางส่วน แต่ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง

ผมเป็นคนดูหนังได้ทุกสไตล์ จะตลก ซึ้ง เศร้า อาร์ต หรือยิงภูเขา เผา กระท่อม ก็ดูได้ทั้งนั้น แต่ถ้ามีให้เลือกว่าจะดูอะไรก่อน คงต้องขอแนว Thiller , Suspense , Horror ประมาณนี้ก่อนเป็นอันดับแรก

แต่กับนิยายนี่ยอมรับเลยว่า ยังอ่านได้ไม่หลายแนว (แน่นอนแนวโปรด ต้องสืบสวน ฆาตกรรม ซับซ้อนซ่อนเงื่อน) อย่างเคยพยายามอ่าน The Note Book ของ Nicholas Sparks ทุกวันนี้ยังอ่านไม่จบ ยังอยู่บนหิ้งอยู่เลย แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นหนังก็คงไม่มีปัญหา (แต่ยังไม่ได้ดูอยู่ดี)

แน่นอนเหตุผลสำคัญหรือหนังเราดูกันชั่วโมงครึ่ง สองชั่วโมงก็จบ แต่กับนิยายบางเล่ม ใช้เวลาอ่านต่อเนื่องกันเป็นวัน ๆ

สำหรับเรื่อง รัก ลวง ตาย นี่ผมคว้ามาอ่าน เนื่องจากได้ยิน (ได้อ่าน) ความเห็นหลายคนว่ายอดเยี่ยม และทำเป็นซีรี่ย์แล้ว (ในชื่อว่า Galileo ไว้วันหลังค่อยเขียนถึงซีรี่ย์อีกที) เลยไปหาซื้อมาอ่านแทบจะทันที

แล้วก็ไม่ผิดหวัง ถ้าคุณอ่านจบแล้วสามารถแปะป้ายได้เลยว่ายอดเยี่ยม

พลิก ๆ ดูแล้วก็พบว่าผู้เขียนคือ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ได้รับรางวัลจากงานเขียนชิ้นนี้มาหลายรางวัลทีเดียว....เดี๋ยวเรื่องประวัติเอาไว้ตอนท้ายนะครับ

ถ้าใครเคยดูเรื่อง Titanic จะรู้ว่า หนังเรื่องนี้จะไม่มีทางประสบความสำเร็จมหาศาลได้อย่างแน่นอน ถ้าศูนย์กลางของหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ความรักของ Jack กับ Rose

เป็นเรื่องจริงที่คนเราโหยหาความรัก คนทุกคนมีช่องว่างในหัวใจ คนดูหนังและอ่านนิยายอย่างไรก็ไม่ต่างกัน เมื่อใดที่เราพบประสบกับเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจ เรามักจะมีใจให้กับเรื่องนั้น ๆ มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ลองจินตนาการถึง Titanic ที่ไม่มีเรื่องระหว่าง Jack กับ Rose ดูซิครับ มันจะกลายไปเป็น Poseidon เวอร์ชั่นทุนสร้าง 200 ล้านดอลล่าห์แทน แล้วก็จะกลายเป็นหนังหายนะขายเอฟเฟกต์ไปแทน

รัก ลวง ตาย หรือ YOGISHA-X KENSHIN ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่มาในรูปแบบที่แบ็คกราวน์เป็นเรื่องฆาตกรรม ซ่อนเงื่อนแทน

หนังสือเปิดเรื่องด้วยการแนะนำให้เรารู้จักกับตัวละครหลักของเรื่องคือ อิชิงามิ ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าอิชิงามิ เป็นคนประเภทที่เวลาเราเดินสวนกันบนท้องถนนหรือ แม้แต่จะนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน เราก็อาจจะสนใจหรือจดจำเขาได้เลย หน้าตา บุคลิก ท่าทาง ไม่มีอะไรที่ชายคนนี้จะเรียกร้องความสนใจของคนรอบข้างได้เลย เป็นคนประเภทโลว์โปรไฟล์ (Low profile)

แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเดือดร้อน เขายอมรับได้ในสิ่งที่เขาเป็น แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่อาจรู้ได้ คือ ชายคนนี้เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งนัก

ผู้เขียนไม่รอช้าที่จะพาเราไปสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักในที่สุด เมื่อยาสึโกะม่ายสาวลูกติดผู้หนีจากอดีตอันเลวร้ายของตัวเอง กลับต้องมาเผชิญกับฝันร้ายอีกครั้งในรูปแบบ ของการโผล่มาอย่างไม่คาดคิดของสามีเก่า

และสถานการณ์ได้บีบบังคับให้เธอและลูกสาวตัดสินใจหาทางออกให้กับตัวเอง ด้วยการร่วมกันจัดการกับปัญหานี้...ให้หมดไป และให้มั่นใจว่า มันจะไม่กลับมาทำร้ายเธอและลูกสาวอีก

จริง ๆ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เกี่ยวกับ อิชิงามิเลย ถ้าเพียงแต่
1) เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในห้องข้าง ๆ ยาสึโกะ
2) เขาไม่เคยแวะไปซื้ออาหารกล่องจากร้านที่ยาสึโกะทำอยู่บ่อย และเห็นได้ว่า อิชิงามิมีใจให้กับแม่ม่ายคนนี้
3) และเขาไม่เสนอตัวเองเข้าช่วยเธอและลูกสาว ด้วยการใช้สมองอันชาญฉลาดของเขาเข้าจัดการกับปัญหานี้ให้


ให้บังเอิญว่านายตำรวจคุซานางิ ที่เข้ามาดูแลเคสนี้ เป็นเพื่อนกับศาสตราจารย์ยุกาว่า ซึ่งได้รับสมญานามว่า ศจ.กาลิเลโอ เนื่องจากเป็นนักฟิสิกส์ที่ฉลาด และนำหลักการทฤษฏี ความเป็นเหตุเป็นผลทางวิทยาศาสตร์มาใช้ช่วยเหลือคลี่คลายคดีให้คุซานางิหลายต่อหลายครั้ง

และแน่นอน เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง
คุซานางิ , ยุกาว่า , อิชิงามิ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน คุซานางิ เป็นเพื่อนกับ ยุกาว่า และ ยุกาว่าเป็นเพื่อนเก่ากับ อิชิงามิ

เนื้อเรื่องหลังจากนั้นจึงเป็นการชิงไหว ชิงพริบกันด้วยหลักตรรกศาสตร์ และสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ ของสองอัจฉริยะที่โคจรมาพบกัน คนหนึ่งเป็นศาสตราจารย์ชื่อดัง ที่ช่วยตำรวจไขคดีปริศนายาก ๆ มาแล้วหลาย ๆ ครั้ง

อีกคนหนึ่งเป็นครูคณิตศาสตร์โรงเรียนมัธยมธรรมดา ๆ ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีผลงานชื่อดัง ดำเนินชีวิตไปวัน ๆ ความสุขเล็ก ๆ ในชีวิตตลอดเวลาที่ผ่านมาคือการได้ไขคำตอบโจทย์คณิตศาสตร์ยาก ๆ จนกระทั่งได้พบกับความหมายของความรักในวันสิ้นหวังของชีวิต

คนหนึ่งจำใจทำเพื่อความถูกต้อง อีกหนึ่งคนเต็มใจทำเพื่อความรัก โดยมีชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน

ผู้เขียนสร้างแคแรกเตอร์ตัวละครอัจฉริยะที่มีบุคลิกแตกต่างกันขึ้นมาสองตัว แล้วโปรยคำถามไว้ว่า "อะไรยากกว่ากัน ระหว่างการหาคำตอบกับการพิสูจน์ว่าคำตอบของคนอื่นที่หามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่"

นิยายแนวสืบสวนส่วนใหญ่มักจะเล่นกับคำถามว่า Who done it! คือมีคดีแล้วหาตัวฆาตกรรม ทริกที่ใช้ และตบท้ายด้วยแรงจูงใจ

แต่เมื่อเราอ่านเรื่องนี้ ตลอดทั้งเรื่องเราจะสัมผัสถึงแรงจูงใจของตัวละครในเรื่องอบอวลแต่หม่นหมองอยู่ตลอดเวลา คือ ความรักที่ใสซื่อของอิชิงามิ

ดังนั้นเนื้อหาไม่ได้มุ่งไปที่ประเด็นว่าใครเป็นคนทำ แต่ทำอย่างไรต่างหาก

ผมอ่านแล้วแว่บนึงก็นึกถึงตัวละครของ Vincent Hanna (รับบทโดย Al Pacina) กับ Neil McCauley (รับบทโดย Robert De Niro) ในหนังเรื่อง Heat (ของ Michael Mann) คนหนึ่งเป็นตำรวจ อีกคนเป็นผู้ร้าย ฉลาดเท่าทันกัน ชิงไหว ชิงพริบกัน และต่างยอมรับในกันและกันว่าเป็นคู่แข่งที่ทัดเทียมกัน

เป็นมิตรภาพที่มีให้กันบนความขัดแย้ง

ยุกาว่า และอิชิงามิก็มีลักษณะเช่นนั้นเหมือนกัน

คนอย่างอิชิงามิ ภาษาอังกฤษ เรียกว่า "No one" ไร้ตัวตนและไม่มีความหมาย

แม้แต่ยาสึโกะเองก็ไม่เปิดใจรับความรู้สึกของอิชิงามิ เธอวางเขาไว้ในตำแหน่งที่สูงที่สุดได้เพียงแค่ผู้มีพระคุณ

แต่แม้กระทั่งเขารู้ว่าความรักของเขายากที่จะสมหวัง เขาก็ยินดีทำเพื่อความรัก

ผู้อ่านย่อมเห็นใจตัวละครตัวนี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่แปลกใจที่ใครหลายคนจะเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้เมื่ออ่านจบ

บทพูดและการพรรณาในเรื่องมีสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่เยิ่นเย้อ หรือรวบรัดจนเกินไป ผู้เขียนไม่มัวเสียเวลาอธิบายถึงความรู้สึกของอิชิงามิในเชิงพรรณาให้มากความ แต่ใช้วิธีอธิบายผ่านการกระทำของตัวละครเอง

ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำให้เรื่องนี้ยังคงความเป็นนิยายสืบสวนได้เป็นอย่างดี

มีเพียงแค่จุดเดียวที่ผมรู้สึกถึงข้อด้อยของเรื่องราวอยู่บ้าง คือ การหาทางออกให้มิซาโตะ ลูกสาวของยาสึโกะนั้น รู้สึกว่าจะรวบรัดและกระทันหันเกินไปหน่อย

แม้จะจบแบบโศกนาฏกรรม ทำร้ายจิตใจคนอ่านอยู่บ้าง แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็เป็นทางออกสมควรเกิดขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นความถูกผิด และการรับผลของการกระทำอย่างที่ควรจะเป็น

ถือเป็นหนังสือที่ใครถามว่าจะแนะนำเรื่องไหน ก็คงจะนึกถึงเรื่องนี้เป็นลำดับต้น ๆ แหละครับ

สำหรับเรื่องนี้ได้รับรางวัลมา 4 รางวัล แต่ที่สำคัญคือ Naoki Award ซึ่งน่าจะเป็นรางวัลที่ผู้เขียนสะใจมากที่สุด เพราะเป็นรางวัลสูงสุดของวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น และก่อนหน้านี้เคยเข้าชิงและพลาดมาแล้วถึง 5 ครั้ง

ฮิงาชิ เคโงะ มีผลงานอื่น ๆ ที่ตีพิมพ์ในไทย เช่น ความลับ , ความลับใต้ทะเลสาป , จดหมายจากฆาตกร , เกมนี้ชื่อลักพาตัว , รักในโลกพิศวง

อ้อ เล่มนี้ตีพิมพ์ด้วย สนพ. NB Horror นะครับ

ซึ่งผมแปลกใจว่าทำไม JBook ปล่อยเรื่องนี้หลุดลอยไปได้ ทั้ง ๆ ที่เรื่องอื่น ๆ ของฮิงาชิโนะ เคโงะ JBook ก็พิมพ์ไปตั้งหลายเล่ม

4 ความคิดเห็น:

  1. ซึ้งใจกับความรักที่บริสุทธิ์ของพระเอก ความรักที่ทำให้ยังอยากมีชีวิตอยู่ ความรักที่ไม่เคยหวังผลตอบแทน

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณคุณ Boygointer ที่แวะมาเยี่ยมเยียนครับ

    ตอบลบ
  3. Nation ฉก นิยายญี่ปุ่นดีๆไปได้หลายเล่มเหมือนกันค่ะ
    พวกโอตสี อิจิ อะไรงี้ก็โดนเพียบ
    จริงๆสำนักพิมพ์ไหนก็ได้ แค่คาใจที่คุณภาพการแปล รู้สึกเนชั่นจะด้อยกว่า

    ตอบลบ
  4. ผมได้ถามจากรุ่นพี่ที่ทำงานที่ J-Book ว่าทำไม J-Book ปล่อยเรื่องนี้หลุดไป
    เขาบอกว่าเนื้อหาแรงเกินจากคอนเซปต์ของสำนักพิมพ์เลยไม่ได้ซื้อมา

    ซึ่งก็งง ๆ ว่าเทียบกันกับหลายเรื่องของ J-Book ก็ไม่ได้ต่างกันมากขนาดไหน
    ถ้าเป็นเรื่อง Goth ซิ อันนั้นผมว่าหลุดคอนเซปต์ของ J-Book อันนั้นเข้าใจได้

    แต่สุดท้าย J-Book ก็พิมพ์รักต้องฆ่า ซึ่งเป็นเล่มที่สองของซีรี่ย์นี้ออกมาอยู่ดี

    แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่าซีรี่ย์นี้ ถูกพิมพ์ 3 สนพ.ไปแล้ว ล่าสุดแพรวสำนักพิมพ์ ก็หันมาจับ J-Suspense กับเขาบ้างแล้ว แล้วเอาซีรี่ย์นี้ไปพิมพ์ 2 เล่มรวดเลย

    ตอบลบ