ยินดีต้อนรับครับ

ยินดีต้อนรับครับ

ทักทาย

ผมลองจัดระเบียบบล็อกใหม่ดูนะ ครับ

โดยแบ่ง Group Blog ออกตามประเภทของหนังและนิยายนะครับ
เพราะคิดว่าหลายคนส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบ ดูหนังทุกประเภท

เช่น บางคนชอบดูหนัง Romantic แต่ไม่ชอบดูหนังสยองขวัญเลย เพราะไม่ชอบ น่ากลัว

บางคนก็ชอบดูหนัง สยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ หนังชีวิตน่าเบื่อมาก ไม่ชอบดู

ผมเลยแบ่ง หมวดหมู่เป็นประเภทของหนัง (แต่ตอนนี้แต่ละหมวดยังน้อยอยู่) เผื่อว่าใครผ่านเข้ามาในบล็อกแล้วอยากจะอ่านรีวิวเก่า ๆ จะได้เลือกได้ตามประเภทของหนังตามที่ชอบได้

ที่แบ่งตั้งแต่ตอนนี้ แม้หนังที่เขียนยังไม่เยอะ เพราะคิดว่าต่อไปเกิดเยอะมาแบ่งที่หลังจะยิ่งเสียเวลาน่ะครับ

บางเรื่องก็แบ่งยากเหมือนกัน มันคาบเกี่ยวกัน แต่ผมจะพยายามยึดอารมณ์ของหนังเป็นหลักน่ะครับ

อ้อ แล้วก็ในบล็อกผมตั้งใจจะขึ้นคำเตือนในทุกบล็อกว่าตรงไหนคุยแบบไม่สปอยล์ ตรงไหนคุยแบบสปอยล์ เวลาใครมาอ่านจะได้อ่านแบบสบายใจได้ไม่ต้องกลัวถูกสปอยล์นะครับ

ถ้าใครแวะมาแล้วไม่รู้จะคอมเมนต์ อะไร ก็ฝากข้อความทิ้งไว้ที่ Shout Box ด้านข้างได้นะครับ


ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านนะครับ ผมก็จะแวะเวียนไปหาท่านด้วยเช่นกัน ตามโอกาสและเวลา

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

Triangle เรือสยองมิตินรก : หลอกหลอน ยอกย้อน เวียนวนและยอดเยี่ยม


รีวิวกึ่งวิจารณ์ ไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญครับ


หลอกหลอน ยอกย้อน เวียนวน


ไม่แน่ใจว่าหนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายหรือเปล่า หรือตรงมาเป็นแผ่นเลย แต่ผมดูจากแผ่นนี่แหละ ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบดูหนังแนวนี้เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว จึงไม่ปล่อยให้พลาด

หนังสัญชาติอังกฤษเรื่องนี้ นำแสดงโดย Melissa George ซึ่งพอไปดูข้อมูลย้อนหลังแล้ว อ้าว ผมเคยดูผลงานเธอมาหลายเรื่องเหมือนกัน Turistas , Derailed , LA Confidential , Dark City , the Amityville Horror แต่สารภาพตามตรงว่าจำไม่ได้จริง ๆ คุ้นมากสุดก็จากเรื่องหลังนี่แหละ

ส่วนผู้กำกับ Christopher Smith (และควบด้วยเขียนบท) นี่ ผลงานที่ผ่านมาของเขายังไม่เคยผ่านตาผมมาก่อน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรก

ว่ากันที่เนื้อเรื่องคร่าว ๆ ก่อน

หนังเริ่มต้นที่นางเอกของเรื่อง Jess ซึ่งเป็นแม่ม่ายลูกติด (ลูกเป็นออทิสติค) ตอบรับคำเชิญไปล่องเรือของ Greg เจ้าของเรือยอร์ชชื่อเดียวกับชื่อเรื่องนั่นแหละ Triangle โดยมีสมาชิกเพื่อนร่วมทาง คือ สองสามีภรรยาที่เป็นเพื่อน Greg คือ Downey และ Sally เพื่อนสาวของ Sally คือ Heather ที่เธอตั้งใจจะชวนมาเพื่อให้จับคู่กับ Greg และ Victor เด็กหนุ่มที่ Greg เอามาทำงานด้วย

ทริปนี้น่าจะเป็นทริปที่ไร้ปัญหาใด ๆ นอกเสียจากว่าใครจะจับคู่กับใคร แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอันนำพามาสู่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ต่อเมื่อมีความช่วยเหลือที่มาแบบไม่คาดคิดเช่นกัน ทั้งหมดตัดสินใจรับการช่วยเหลือนั้น แต่นั่นอาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ได้ เพราะสิ่งที่เกิดกับพวกเขาหลังจากนั้นเป็นสิ่งที่เกินกว่าจะคาดคิดได้


หนังตั้งชื่อตัวเองว่า Triangle ซึ่งแปลตรงตัวว่า สามเหลี่ยม โดยเราจะเห็นได้จากต้นเรื่องว่าเป็นชื่อเรือของ Greg แต่จากหน้าหนัง และการล่องเรือออกทะเล และเหตุการณ์ตอนต้นเรื่อง ชวนให้เราคิดไปถึงคำว่า Triangle อีกคำหนึ่งที่มีความหมายเฉพาะ คือ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา แม้หนังจะไม่ได้พูดชัด ๆ แต่หลายคนที่ดูก็อาจจะตีความได้อย่างนั้นเช่นกัน หนังเรื่องนี้เล่นกับความลี้ลับเหนือธรรมชาติ ถ้าจะดูเรื่องนี้ให้สนุก ไม่ต้องถามว่า ไอ้นั่นมาได้ยังไง แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ถามแค่ว่าตกลงเรื่องมันเป็นยังไงก็พอ

เมื่อผ่านไปได้ค่อนเรื่อง หนังเริ่มเปิดเผยให้เห็นว่าตัวหนังมาในสไตล์ Twilight Zone แดนสนธยา หรือพวกมิติพิศวง ที่ตัวละครหลุดเข้าไปเจอกับเรื่องประหลาด ๆ

หนังทำได้ดีในการใส่พล็อตหลอกล่อ การเขียนบทมีการใส่เบาะแสบางอย่างทิ้งไว้ แล้วจึงเฉลยในภายหลัง โดยคนดูอย่างเรา จะได้รับรู้ความจริงไปพร้อม ๆ กับตัวละครหลัก คือ Jess

คือ Jess มึนอย่างไร เราก็มึนอย่างนั้นแหละ


สุดท้ายหนังพาตัวเองไปจบตามที่ต้องการด้วยความฉลาดของผู้เขียนบท ที่ใส่แรงจูงใจบางอย่างให้นางเอก และสถานการณ์บีบคั้น เพื่อผลักดันให้นางเอกทำสิ่งที่ต้องทำอย่างไม่เคอะเขิน แม้ว่าบางซีนเราคนดูจะรู้สึกว่า ทำไมทำอย่างนี้ จำไม่ได้หรือไง แต่นั่นเพราะเราเป็นคนดูไง เราเลยคิดได้

ส่วนประเด็นที่ผมคิดว่าหนังต้องการพูดถึงคือเรื่องที่ คนเรามักจะชอบคิดว่าจะแก้ไขเรื่องราวในอดีตที่ไม่ดี ด้วยคำพูดว่า "ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว" ซึ่งหนังก็ทำให้นางเอกพบกับความจริงที่ว่า บางครั้งเืมื่อเราคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว

Melissa George แสดงเรื่องนี้ได้ตามบทบาท ดูเหมือนเลื่อนลอย เหมือนมีความทรงจำบางอย่างที่ติดอยู่ และพยายามจะไขมันออกมา สีหน้า แววตาที่ช่วยทำให้บรรยากาศของหนังหลอนขึ้น

การตัดต่อของหนังก็ทำได้ลงตัวดี ทำให้หนังดูซับซ้อนและยอกย้อน แต่เมื่อลำดับความคิดได้ ก็ไม่งุนงง

ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเลย สำหรับหนังแนวนี้ ส่วนตัวผม ถือว่าค่อนข้างชอบเป็นอย่างมาก (อย่างว่า ชอบหนังแนวนี้เป็นทุนเดิม)

เวลา 90 กว่านาทีของหนังถือว่าไม่เร็ว ไม่นานจนเกินไป ผกก.ทำให้คอหนัง Thriller อย่างเราๆ จดจ่ออยู่กับหนังได้ตลอด และทุก ๆ ครั้งที่หนังเฉลยปมให้เห็นว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แม้ไม่ถึงกับทำให้เซอร์ไพรส์ตกเก้าอี้ แต่ก็พึงพอใจบ้างอะไรบ้าง

ถ้าดูเรื่องนี้จบ แนะนำให้หาเรื่อง 11:14 มาดูอีกเรื่องนะครับ แล้ววันหลังจะมาเขียนเรื่อง 11:14 อีกที

สำหรับเรื่องนี้ Triangle ถ้าใครยังไม่ได้ดู ก็รีบไปหามาดูนะครับ เป็นหนังดีที่ถูกมองข้าม ขอแนะนำ

ผมให้ 8/10 คะแนนไปเลย

ตรงนี้จะขอคุยแบบสปอยล์เนื้อหานะครับ ใครยังไม่ได้ดู อย่าเพิ่งอ่านนะครับ




อย่างที่บอกว่าหนังเรื่องนี้มาในอารมณ์แดนสนธยา Triangle ในที่นี้ เลยเปรียบได้กับสามเหลี่ยมที่วนไปวนมา โดยมีตัวนางเอกเป็นศูนย์กลางของเรื่อง

ตอนต้นเรื่องหนังทำให้เห็นว่านางเอกมีอาการเบลอ ๆ บางอย่าง และเราเข้าใจว่านางเอกรักลูกของตัวเองมาก แต่ตอนท้ายกลับพบว่าไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อตัวนางเอกวนกลับมาเจอตัวเองในอีกมิติหนึ่งแล้วเห็นการกระทำของตัวเองที่ทำต่อลูก จนตัวเองยังรับไม่ได้ เลยลงมือฆ่าซะ แล้วก็บอกกับลูกตัวเองว่า "ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว" แต่สุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุ ลูกตาย ตัวเองความจำเสื่อมระยะสั้น แล้วจึงวนเข้าลูปเดิม

นางเอกถูกลงโทษเหมือนตำนานกรีกที่ Sally พูดตอนอยู่บนเรือ Aeolus ให้ต้องทำเรื่องเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเวียนต่อไปเรื่อย ๆ

คือ Aeolus คือ เทพเจ้ากรีกที่มีลูกชายคือ Sisyphus ตอนที่เขาตายนั้น เขาได้ทำสัญญากับมัจจุราชว่าจะขอขึ้นมาบนโลกมนุษย์ 1 สัปดาห์ แล้วจะกลับมา แต่แล้วกลับโกงความตายหนีไป จนถูกจับได้ Hades เลยลงโทษให้เขาเข็นก้อนหินใหญ่ขึ้นภูเขา แต่เมื่อถึงยอดก็ถูกสาปให้หินกลิ้งกลับลงมาอีก จึงต้องเข็นขึ้นไปใหม่ เป็นอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น

จtสังเกตุได้ว่านางเอกจะมีความทรงจำเก่าอยู่บ้าง เช่น ที่ฝันว่าตัวเองนอนอยู่ชายหาด จำทางเดินบนเรือได้เหมือนเคยมามาก่อน

อีกอย่างหนึ่งสังเกตุว่ากว่านางเอกตัวปัจจุบันจะรู้ความจริง ก็ต้องผ่านไปแล้ว 3 Generation (คนดูก็เหมือนกัน) ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่เหตุการณ์มันมีพัวพันกันอยู่ 3 generation อาจเป็นที่มาหนึ่งของชื่อเรื่องก็เป็นไปได้

สิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างหนึ่งคือตอนที่รถคว่ำตัวนางเอกเองกลับไม่มีร่องรอยบาดเจ็บอะไรเลย จะว่าเหตุการณ์นั้นคิดไปเอง ก็ไม่น่าใช่ แม้หนังจะหลอกล่อให้คนดู คิดไปว่านางเอกอาจจะคิดไปเองหรือเปล่า แต่ท้ายที่สุดหนังก็เฉลยให้เห็นทิศทางของหนังแล้วว่ามาในแนวนี้ ผมเลยติดใจอยู่ตรงประเด็นนี้อย่างหนึ่ง

ถ้าผู้กำกับใส่รอยถลอกอะไรเข้าไปนิดหน่อย ตั้งแต่ตอนเริ่มต้นเรื่อง อาจทำให้เรื่องราวดูมีพลังมากขึ้นก็ได้

หนังแบบนี้ดูแล้วไม่คิดมากก็สนุก ดูแล้วคิดลึกก็ได้อรรถรส ตีความได้หลายอย่างซึ่งก็ถือว่าเป็นความสนุกของผู้ชมกันไป ส่วนของใครจะถูกหรือผิดอาจไม่มีคำตอบ คงต้องให้ผู้กำกับเฉลยเอาเองแล้วแหละครับ

ขอเพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ

ในที่นี้ผมจะขอพูดเฉพาะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังเท่านั้นนะครับ
ไม่เน้นที่การตีความหนัง ทั้งในเรื่องสัญญลักษณ์ต่าง ๆ ว่าหมายถึงอะไร ทั้งในเรื่องคาดเดาว่าก่อนหน้านี้น่าจะเป็นอย่างไร หรือนางเอกทำแบบนี้ทำไม ซึ่งคงมีหลาย ๆ ท่าน ได้ตีความไปหลายกระทู้แล้ว

จากการได้ดูหนังตอนต้นเรื่องและท้ายเรื่องซ้ำอีกครั้ง

ทำให้ผมสรุปได้ว่า นางเอกตอนต้นเรื่องที่ใส่ชุดแส็กลายดอกไม้ (ในที่นี้ขอเรียกว่า เจสลายดอก แล้วกันเพื่อความง่ายขึ้น) กับนางเอกที่ดำเนินเรื่องมาทั้งเรื่องที่ใส่เสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ขาสั้น (ขอเรียกว่า เจสเสื้อกล้าม) เป็นคนละคนกัน

ผมสรุปได้ว่าเรื่องที่เราดูอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ (เอาเฉพาะในหนังนะครับ ไม่ต้องไปตีความ คาดเดาเรื่องก่อนหน้านั้น) เป็นเรื่องที่วนซ้ำแล้วซ้ำอีกมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งเราไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้เกิดมากี่ครั้งแล้ว และเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่

จริง ๆ เราพอจะคาดการณ์ได้นะครับว่าเรื่องนี้เกิดมากี่ครั้งแล้ว โดยดูจากจำนวนศพ Sally หรือจำนวนศพนกพิราบ ซึ่งต้องเท่ากัน +-1 เท่านั้น

เริ่มต้นเรื่องเราจะเห็นเบาะแส ตั้งแต่ตอนที่เจสลายดอกกำลังเช็ดสีที่ลูกทำเปื้อนพื้นตอนต้นเรื่อง แล้วลุกขึ้นเห็นว่าสีเปื้อนกระโปรงตัวเองนั้น

หนังตั้งใจหลอกเราว่าหลังจากนั้นนางเอกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ แต่ความจริงแล้ว พอแล้วเห็นนางเอกจัดกระเป๋าแล้วเอากระเป๋าไปใส่รถนั้น เจสเสื้อกล้ามได้ฆ่าเจสลายดอกตายไปแล้ว

โดยเราสังเกตุได้ว่าจะมีตอนที่เจสลายดอกได้ยินเสียงกริ่งแล้วเดินออกมาถามคนข้างบ้านว่าเห็นคนมากดกริ่งหรือเปล่า อันนั้นแหละที่หนังมาเฉลยให้เราทราบตอนท้ายเรื่องว่าเจสเสื้อกล้ามมากด แล้วก็แอบย่องเข้าไปฆ่าเจสลายดอกตายในเวลาต่อมา

ดังนั้นเสียงกริ่งคือเบาะแสสำคัญที่บอกว่าเรื่องที่เราดูอยู่นี้เป็นหนึ่งเหตุการณ์วนที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกมาหลายครั้งแล้ว

และแสดงว่าต่อมาตอนที่เจสเสื้อกล้ามขับรถออกไป แล้วมีป้ายบอกว่า "เดินทางโดยสวัสดิภาพ แล้วกลับมาเยี่ยมเราอีก" หลังจากนั้นรถก็คว่ำแล้วศพเจสลายดอกก็กระเด็นออกมา ลูกตาย ส่วนเจสเสื่้อกล้ามก็นั่งแท็กซี่ไปขึ้นเรืออีกครั้งหนึ่ง

หนังเล่นมุกกับเราตรงป้ายที่บอกว่า "แล้วกลับมาเยี่ยมเราอีก" สุดท้ายนางเอก็ต้องวนกลับมาซ้ำอีก



สรุปว่าหนังใช้การตัดต่อหลอกเราตอนต้นเรื่อง แล้วค่อยเฉลยเรื่องราวตอนท้าย

เรื่องราวที่เราดูอยู่เป็นหนึ่งในการวนซ้ำแล้วซ้ำอีกมาหลายครั้งแล้ว
และเจสเสื้อกล้าม คือตัวหลักที่ทำเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นเอง

ส่วนเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นจะเป็นยังไง ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด ก็ต้องคาดเดาและตีความกันไป ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเจตนาหนึ่งของผู้สร้างหนัง เพราะทำให้หนังถูกพูดถึงกันต่อไปเรื่อย ๆ
สรุปว่าหนังใช้การตัดต่อหลอกเราตอนต้นเรื่อง แล้วค่อยเฉลยเรื่องราวตอนท้าย

แล้วนางเอกที่ใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ก็เป็นตัวหลักทำเรื่องเดิมซ้ำเรื่อย ๆ นั่นเอง

8 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ ดูแล้ว งงดีแต่พอมาอ่านรีวิวก็คิดว่าตัวเองเข้าใจถูกแล้ว หุหุหุ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับที่วิจารณ์ได้ละเอียดละออพอสมควร
    ผมดูทีแรกก็งงเหมือนกัน แต่พอเหตุการณ์พอเห็นศพกองอยู่มากมายถึงได้นึกออก โดยรวมแล้วผมว่ายอดเยี่ยมครับ มันมีความยากของการออกแบบพล๊อตเรื่องแล้วเค้าก็ทำได้ดีมากจริงๆ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ17 สิงหาคม 2553 เวลา 17:49

    เหอๆ เพิ่งดูวันนี้ครับ คิดตามหนังทันอยู่ แต่ก็นั้นละจะไม่ทำอีกแล้วสุดท้ายก็กลับมาที่เก่า คงเป็นเพราะตัวนางเอกเองนั่นละถ้าไม่ขึ้นเรือน่าจะมีโอกาศนะหุๆ
    @^_^@

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ18 สิงหาคม 2553 เวลา 23:28

    งง จริง ๆ .... อยากรู้ว่า เรื่องมันต้องการสื่อถึงอะไร ??

    .... ปวดหัวกับเรื่องนี้ .

    ตอบลบ
  5. ตามความคิดผมนะครับ

    เรื่องเริ่มต้นที่
    1.นางเอก ดุลูก สีเลอะเสื้อ พาลูกขึ้นรถ
    2.รถชนนก จอดรถ เอานกไปทิ้ง ขับรถ ลูกงอแง เพราะเลือดนกที่ติดอยู่ที่กระจก
    3.นางเอก หันไปดุ(หรือจะหันไปปลอบ อันนี้ก็ไม่รู้) รถชน ตายทั้งคู่
    4.วิญญาณ นางเอก ในชุดเสื้อกล้ามสีขาว มองดู ศพลูกและศพตัวเอง
    5.ยมทูต ในนามของคนขับแท็กซี่ พานางเอก ไปท่าเรือ
    6.เดินทางสู่นรก เพื่อชดใช้กรรมในรูปแบบของเรือ
    7.หนีออกจากเรือได้ ไปบ้านตัวเอง
    8.เห็นสิ่งที่ตัวเองทำ ทนไม่ไหว ฆ่าตัวเอง เอาศพขึ้นรถ
    9.วนซ้ำ ไป ข้อ 2 เรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ21 ธันวาคม 2553 เวลา 00:33

    ลูป มันแปลว่าวนอยู่แล้ว จะต้องพูดว่า วนลูป ทำไม...

    ตอบลบ
  7. ขอบคุณที่มาท้วงติงครับ แก้ไขคำให้ถูกต้องแล้วครับ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ28 มีนาคม 2555 เวลา 21:07

    เสียเวลา จริง ๆ อย่าไปดูเลย

    ตอบลบ